วันที่ 18 ต.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหนองม่วง ต.นิคม อ.สตึก ว่ามีคนร้ายแอบมาขโมยวัว ระหว่างนำไปล่ามใกล้กับไร่มันสำปะหลัง ในหมู่บ้าน อยากจะให้คนที่รู้เบาะแสแจ้งมา เผื่อพบคนร้าย และอยากให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายที่เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังจับกุมไม่ได้ จากการตรวจสอบ ที่บ้านหนองม่วง ต.นิคม พบนางบุดดี  ชุ่มเสนา  อายุ 57 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 8  หมู่ที่ 4 บ้านหนองม่วง ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์  กำลังเอาอาหารให้วัวในคอก

 

โดยได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนอยู่กับลูกชาย 2 คน มีอาชีพทำนาและเลี้ยงสัตว์ ส่วนสามีไปรับจ้างเป็นยามที่จังหวัดระยอง ครอบครัวมีฐานะยากจน เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ตนถูกคัดชื่อเป็นผู้ที่ได้รับวัวโครงการของรัฐบาล จำนวน 2 ตัว เป็นเพศเมียทั้งสองตัว ในแต่ละวันจะต้องนำวัวทั้ง 2 ตัวไปผูกล่ามเอาไว้กลางทุ่งนา วันเกิดเหตุตนได้นำวัวไปล่ามใกล้กับไร่มันสำปะหลัง อยู่ทางทิศใต้ของบ้านหนองม่วง ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตอนเที่ยงออกไปดูวัว และย้ายหลัก วัวก็อยู่ปกติ พอช่วงบ่าย 3 ออกไปดูวัวอีกครั้งวัวสีขาว-น้ำตาล อายุประมาณ 3 ปี ได้หายไป 1 ตัว ตรวจสอบพบมีการถอนหลักล่ามออกไป มีรอยเท้าคน 

จึงออกติดตามนึกว่าเชือกผูกไว้หลุด  แต่ติดตามอย่างไรก็ไม่พบ  เมื่อมาตรวจดูที่บริเวณหลักไม้ผูกวัว พบว่าหลักไม้ยังอยู่ปกติ จะต้องมีคนมาแก้เชือกออกอย่างแน่นอน เพราะหากวัวหลุดไปหลักจะต้องมีร่องรอยการโยกหรือหลักหลุดออกไป นอกจากนี้ยังพบก้นบุหรี่ ตกบริเวณนั้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นบุหรี่ของคนที่มาแก้เชือกวัวออกไป จึงคิดว่าวัวมีคนขโมยไป และเข้าแจ้งความต่อ  ร.ต.อ.สุระ  ศรีจินดา รองสารวัตร (สอบสวน)  สภ.สตึก  เพื่อให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี จากนั้นได้ขอแรงชาวบ้าน 20-30 คน มาช่วยระดมค้นหาพื้นที่ใกล้เคียง ก็ไม่พบ จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ส่วนหนึ่งรู้สึกน้อยใจ เพราะหากตำรวจมาเร็วก็จะได้ข้อมูลไปติดตามหาคนร้ายได้ทันต่อเหตุการณ์ ถึงขณะนี้ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะวัวที่หายไป เป็นวัวโครงการจากรัฐที่นำมาแจกให้ชาวบ้านเลี้ยง มีเงื่อนไขว่าหากวัวหายหรือนำไปขายจะต้องนำเงินมาชดใช้คืน ตนมีฐานะยากจนจึงขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามวัวมาคืนด้วย เพราะไม่มีเงินที่จะนำไปชดใช้รัฐคืน