"ทราย เจริญปุระ" เปิดใจ "ไม่คิดว่าจะมีเพื่อน มางานศพแม่ตัวเอง"
18 ต.ค. 2562, 14:25
ทราย เจริญปุระ ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง ONE31 หลังเพิ่งสูญเสียคุณแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ พร้อมเล่าที่มาประโยคเด็ด "ไม่คิดว่าจะมีเพื่อน มางานศพแม่ตัวเอง "
ย้อนกลับไปตอนที่คุณแม่จะเสีย ก่อนหน้านั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น?
ทราย : "จริงๆ เป็นผลต่อเนื่องมาจากอาการป่วยของเขา นั่นก็คือโรคสมองเสื่อม ถือว่าเร็วเกินไปไหมสำหรับวัยประมาณแม่ คนจะคิดว่าอาการนี้จะมาประมาณ 60-70 แหละ แต่แม่ทรายเริ่มเป็นประมาณ 59-60 ปี ดังนั่นก็คือมันค่อนข้างเร็ว แล้วทั้งหมดทั้งมวลมันขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองด้วย ซึ่งแม่ทรายเขาจะมีปัญหาหลักๆ ในเรื่องของสุขภาพก็คือโรคซึมเศร้าซึ่งเป็นมาตั้งแต่สาวแล้ว ดังนั้นกำลังใจที่เขาควรจะมีในการดูแลตัวเองในการป่วยมันก็น้อยลง แล้วมันก็ต้องทำคู่กันไป ซึ่งอันนี้ที่ยาก แล้วก่อนหน้านี้ก็เป็นปัญหามากๆ ในการที่ต้องดูแลกัน"
คำว่าโรคสมองเสื่อมไม่ค่อยได้ยิน จริงๆ โรคสมองเสื่อมมันคือโรคอะไร?
ทราย : "คือคนจะคุ้นกับอัลไซเมอร์มากกว่า คืออัลไซเมอร์มันก็เป็นอาการสมองเสื่อมอย่างหนึ่ง แต่สมองเสื่อมในที่นี่มันเกิดได้จากหลายสาเหตุ มีก้อนเส้นโลหิตในสมอง เกิดจากการไม่ดูแลตัวเอง หรือว่าใช้อะไรมาเป็นระยะเวลานาน จริงๆ แล้วหลายคนพออายุเยอะขึ้นมีอุปนิสัยอะไรที่แปลกไปก็อาจจะมีปัญหา เกิดจากตรงนี้ด้วย"
แต่พอบวกกับอาการที่แม่เป็นโรคซึมเศร้า มันก็เลยกลายเป็นว่าแทนที่จะกู้ร่างกายหรือสภาวะจิตใจให้แข็งแรงมันกลายเป็นว่าแย่ลงไป?
ทราย : "มันก็ยิ่งแย่ลงไป เพราะว่าเขามีแนวโน้มอยากฆ่าตัวตายอยู่ตลอด ซึ่งพอถึงจุดหนึ่งเราต้องแอดมิทแม่เข้าศรีธัญญา ซึ่งเป็นเรื่องเป็นราวมากตอนนั้นว่าทำไมอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้ แล้วเกี่ยวอะไร เอาแม่ไปทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลบ้า คือการโดนแม่โทร.บอกทุกวันว่าวันนี้เขาจะตายยังไงมันแบบ ซึ่งในทางปฏิบัติมันก็ไม่ได้ เพราะเราเป็นหัวหน้าครอบครัว เราไม่สามารถไปนั่งอยู่เฉยๆ แล้วมียาหล่นมาจากฟ้าให้เรากินได้ เราก็ต้องออกมาทำมาหากิน แล้วมันก็ไม่ใช่งานที่แปลกอะไร"
"เพราะเราทำงานนี้มาตั้งแต่ 14 ปีแล้ว แม่ก็รู้ แม่เป็นคนดูคิวให้ วันหนึ่งเขามีปัญหาเรื่องความจำเขาดูคิวหรืออะไรให้เราไม่ได้ เขาก็รู้สึกว่าลูกหลุดมือออกไปเรื่อยๆ เหมือนกับเขาไม่มีความสำคัญกับเรามากขึ้น ซึ่งมันไม่จริงเลย มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว แต่ว่าเวลามันเปลี่ยนไป เราก็ต้องทำ แต่ด้วยความที่เขาเป็นซึมเศร้าบวกเข้าไปตรงนี้ คือเขาพูดอย่างนี้ทุกวันจนทรายต้องมานั่งเก็บมีด เก็บข้าวของทุกอย่างที่มันอาจจะเป็นอาวุธ ซึ่งมันยากมาก"
ถามถึงเรื่องที่หนิง ปณิตาโพสต์หน่อย ตอนนั้นพูดด้วยอารมณ์ไหน?
ทราย : "มันตกใจเหมือนกัน คือถ้าเป็นคนที่โตๆ กว่าเราก็คือเขาเคยทำงานกับแม่แหละ เราจะรู้สึกว่าเขาคิดถึงแม่ แต่พอเป็นเป้ย เป็นหนิง เป็นอั้ม เป็นโอปอล์ เราจะรู้สึกว่าอยู่ๆ เรามีเพื่อนเป็นดารา ไม่อะ มันคือยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก คือทรายไม่ชอบใครใครต้องมาคอยเป็นห่วงเรา หรือว่าเอาเงื่อนไขของเราแบบวันนี้รีบนะ ทรายจะรีบกลับไปดูแม่ ไม่ดีอะ ทรายว่าไม่ควร"
แต่ชีวิตประจำวันทรายไม่เคยทำตัวเป็นดาราเลย?
ทราย : "ใช่ๆ มันก็เลยไม่ชินเป็นพวงหรีดจากดารา เขามีอะไรทำตั้งเยอะ อย่างแม่เป้ย เราก็ตามดูไอจี ลูกเขาน่ารัก เราก็ไม่เคยทำงานกับเป้ย เป้ยส่งมาตั้งแต่วันแรกๆ เรารู้สึกแบบว่าโอ้โห... รวมถึงคนที่ไปงานศพหลายๆ คน ไม่คิดว่าเขาจะมา ไม่ใช่คิดว่าเขาไม่มีน้ำใจ แต่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะให้ความสนใจหรือสำคัญขนาดนั้น"
แม่ได้สั่งเสียอะไรไว้ไหม?
ทราย : "ไม่มีอะไรเลย แต่แกก็เตรียมตัวมาก บ้านทรายพูดถึงเรื่องความตายเป็นปกติ แม่เขาก็เลือกรูป สั่งเสียว่าเอางานแบบนี้ งานไม่ต้องจัดเยอะ อย่าให้คนเห็นฉันเยอะ เพราะฉันไม่สวย สิ่งที่เขาสั่งไว้ เขาสั่งไว้ตอนที่เขายังแข็งแรงนี่แหละไม่ได้มาสั่งตอนป่วย"
วินาทีที่รู้ว่าแม่เสีย?
ทราย : "วันนั้นจริงๆ ตอนเช้าจะลงไปเพื่อเช็ดตัว แล้วดูว่าพี่ที่เป็นพี่เลี้ยงแม่เขาจัดการนู้น นี่นั่น เสร็จหรือยัง เขาก็ขึ้นมาบอกก่อนว่าแม่เสียแล้ว เราก็แบบเห้ย...จริงหรอ เขาไม่ได้เข้าขั้นตรีฑูตเขาก็นอนเฉยๆ "
สรุปคุณหมอวินิจฉัยว่า?
ทราย : "ระบบในสมองมันล้มเหลว แล้วทุกอย่างมันก็หยุดทำงานไปเท่านั้นเอง"
ภาพ :itr NingPanita Fanpage