เมื่อวันที่ 4 ม.ค.พ.ต.อ.ไพรวัลย์ ท้าวพรม ผกก.สภ.โซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเกิดคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน คือคดีของ นายบุญรถ ประจิมนอก อายุ 48 ปี ราดน้ำมันเบนซินแล้วจุดไฟแช็คเผาทั้งเป็น น.ส.พนาวัลย์ ศรียอด อายุ 47 ปีภรรยา แล้วไฟยังลุกลามเผาเพิงพักหน้าบ้านจนวอด เนื่องจากมุงด้วยหญ้าคา ซึ่งเป็นเชื้อไฟอย่างดี ส่วนภรรยาได้ถูกไฟคลอดทั้งตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกหน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.โซ่พิสัย และนำส่งไปรักษาตัวต่อที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี 3 วันต่อมา น.ส.พนาวัลย์ ทดพิษบาดแผลไม่ไหวจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังทั้งคู่ต่างดื่มด่ำฉลองปีใหม่กับเพื่อนๆ แล้วกลับเข้าบ้านเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรงทำให้ สามีเกิดบันดาลโทสะ นำขวดน้ำมันเบนซินบรรจุในขวดน้ำอัดลมจะไปเติมน้ำมันรถมอไซค์ แต่เปลี่ยนใจกลับเอาน้ำมันไปราดเสียภรรยา แล้วจุดไปแช็คเผาทั้งเป็นได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตต่อมาดังกล่าว เกิดเหตุที่บ้านเลขที่ 223 หมู่ที่ 2 ที่บ้านห้วยลึก ข้างโรงเรียนบ้านห้วย ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ

พ.ต.อ.ไพรวัลย์ ท้าวพรม เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังต่อไปว่า หลังได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุในคืนวันที่ 31 ธ.ค.จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ภควัต บงแก้ว รอง.ผกก.(สอบสวน) ร.ต.อ.วันชัย พรมจันทร์ รอง สวป.ร้อยเวรสายตรวจพร้อมพวกและร.ต.ท.ปฏิพล รักพงษ์ พนักงานสอบสวนเวร จึงเดินทางออกตรวจที่เกิดเหตุ เพลิงได้สงบลงแล้วมีร่องรอยเพลิงไหม้บริเวณหน้าบ้านเป็นหญ้าคาที่ใช้ทำเป็นหลังคา และได้แจ้งให้พิสูจน์หลักฐานจังหวัดบึงกาฬ มาตรวจที่เกิดเหตุและตรวจเก็บวัตถุพยาน สอบถามรายละเอียดเบื้องต้น จากชาวบ้านใกล้เคียงแจ้งว่า บ้านหลังนี้มีสามีภรรยาอยู่ด้วยกันสองคน มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ ผู้ก่อเหตุ คือ นายบุญรถ อายุ 48 ปีสามีเจ้าของบ้าน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคือน.ส.พนาวัลย์ อายุ 47 ปีภรรยา ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้นำใบตองอ่อนมาปิดแผลไฟไหม้ เพื่อช่วยเนื้อเยื่อสมานกันดีหายเร็วและเสี่ยงติดเชื้อ

หลังเกิดเหตุนางหนูเลี่ยน ประจิมนอก อายุ 68 ปีแม่นายบุญรถ ผู้ก่อเหตุเผาภรรยาทั้งเป็น เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.โซ่พิสัย จากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับภรรยา ได้ทะเลาะมีปากเสียงกัน และนายบุญรถ จะเข้าไปเอาเสื้อกันหนาวในบ้านพัก เมื่อได้เสื้อกันหนาวแล้วออกมานอกบ้าน และได้ไปหยิบเอาขวดน้ำมันเบนซินบรรจุในขวดน้ำอัดลม จะเอามาเติมน้ำมันรถมอไซค์ แต่เกิดมีปากเสียงกันรุนแรงขึ้น ตนจึงใช้น้ำมันเบนซินซึ่งบรรจุในขวดน้ำอัดลมสาดเข้าใส่ตัว น.ส.พนาวัลย์ และได้มีการยื้อแย่งไฟแช็คกัน ทำให้เกิดไฟไหม้ร่างกายของ น.ส.พนาวัลย์ ซึ่งมีน้ำมันเบนชินเปียกเสื้อผ้าตัวที่สวมใส่อยู่ ทำให้ได้รับบาดเจ็บบวกกับ จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณเพิงพักหน้าบ้านที่มุงด้วยหญ้าคา จึงเกิดไฟไหม้ น.ส.พนาวัลย์ ภรรยา และถูกไฟคลอกอย่างรุนแรงได้รับบาดเจ็บสาหัสและได้เสียชีวิตต่อมาดังกล่าว จึงถูกแจ้งข้อหา”ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” ควบคุมตัวผู้ต้องหายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลจังหวัดบึงกาฬแล้ว โดยไม่มีญาติไปขอประกันตัวแต่อย่างใด

นายณรงค์ฤทธิ์ ลูกชายผู้ตาย กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ กทม.ไม่ได้อยู่บ้านกับพ่อแม่ ทั้งคู่จะมีปากเสียงกันประจำ ซึ่งก็ไม่รู้เรื่องว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพและสัมภาษณ์อะไรอีกแล้ว เพราะหลังเกิดเหตุญาติทั้งฝ่ายพ่อและแม่ก็เข้าหน้ากันไม่ติด ต่างก็โทษซึ่งกันและกัน และจะทำการฌาปนกิจในวันศุกร์พรุ่งนี้