วันที่ 2 มกราคม 2567 จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ต.บ่อนอก อ.เมืองประจวบฯว่ามีปั๊มน้ำมันยี่ห้อดังแห่งหนึ่ง ริมถนนเพชรเกษมขาเข้า กทม.มีตู้เติมสีเขียว ปฏิเสธการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงใส่แกลลอน 5 ลิตร จำหน่ายให้กับประชาชน สร้างความแปลกใจเป็นอย่างมาก จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพลังงานจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด รักษาการปลัด อบต.บ่อนอก พร้อมเจ้าหน้าที่กองช่าง

โดยจ่าอากาศเอกเสกสรรค์ นำแกลลอน 5 ลิตรที่เติมเป็นประจำ ไม่เคยมีข้อห้ามจากสำนักชั่งตวงวัดเพชรบุรี เพื่อไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ประจำสถานีบริการปฏิเสธในการเติมน้ำมันเบนซินแกสโซฮอร์ 95 โดยอ้างเป็นเป็นน้ำมันไวไฟ อาจเป็นอันตราย หากเติมได้ก็จะเติมเพียง 4 ลิตร จ่าอากาศเอกเสกสรรค์จึงแจ้งว่าขอเติมเพียง 4 ลิตร แต่พนักงานแจ้งว่าเป็นแกลลอนเก่าไม่สามารถเติมให้ได้ จากการสอบถามเหตุผลกับผู้จัดการปั๊มว่าเหตุใดจึงไม่สามารถเติมได้แต่ไม่มีคำตอบ แจ้งว่าไม่มีหน้าที่ในการให้ข่าวกับสื่อมวลชน

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเดียวคือสำนักงานพลังงานจังหวัดจะทราบล่วงหน้าว่า ประชาชนไม่สามารถเติมน้ำมันในแกลลอนพลาสติคได้ แต่บางกรณีสามารถเติมน้ำมันในถังสีแดงที่มีมาตรฐาน มอก.ที่ผลิตเพื่อใส่เชื้อเพลิงสำรองได้ และ ยังมีข้อกฎหมายกำหนด ให้ปั๊มน้ำมันเติมเชื้อเพลิงให้กับยานพาหนะเท่านั้น สำหรับเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัด รักษาการปลัด อบต.บ่อนอกและเจ้าหน้าที่รวมถึงสื่อมวลชน ยอมรับว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ ไม่เคยทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน และเมื่อสอบถามว่าหากเติมใส่แกลลอนไม่ได้ อาจจะกระทบกับวิถีชีวิตของประชาชนหรือไม่ ที่ต้องซื้อน้ำมันไปใช้เพื่อประกอบอาชีพการเกษตร แต่ยังไม่มีการชี้แจงใดๆ

ขณะเดียวกันนายทรัพย์ คงเจริญ อายุ 65 ปี ชาวบ้าน ต.บ่อนอก ได้หิ้วแกลลอนพลาสติคสีแดงไปเติมเบนซิน 95 แต่ปั๊มปฏิเสธการขายใส่แกลลอน อ้างว่าเบนซินเป็นน้ำมันไวไฟ แต่นายทรัพย์ตั้งข้อสังเกตว่าก่อนหน้านี้ทุกวัน และเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567ยังซื้อเบนซินใส่แกลลอนสีแดงได้ปกติ ขณะที่พนักงานปั๊มแจ้งว่าต่อไปหากจะเติม ต้องใช้แกลลอนขนาด 18 ลิตร เช่นเดียวกับนายชาติ เปรมปรีด์ อายุ 55 ปี ชาว ต.บ่อนอก หิ้วแกลลอนสีขาวไปขอซื้อน้ำมันดีเซลเพื่อนำไปใส่รถยนต์ที่น้ำมันหมดกลางทาง แต่ถูกปฎิเสธการขายเช่นกัน ทำให้ผู้ซื้อน้ำมันทั้ง 2 รายต้องขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านไปด้วยความผิดหวัง