"กรมพระศรีสวางควัฒน" ทรงมุ่งมั่น สร้างบัณฑิตแพทย์ให้มีความเป็นเลิศ
21 ธ.ค. 2566, 05:50
ด้วยพระวิสัยทัศน์กว้างไกลที่จะยกระดับการศึกษาทางด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพในประเทศไทย ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปในพิธีลงพระนามและลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ณ ตำหนักทิพย์พิมาน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ถวายรายงานถึงการลงพระนามและลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กับ 4 สถาบัน กล่าวว่า ด้วยพระปรีชาสามารถและด้วยพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลเพื่อที่จะทรงสร้างบัณฑิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเป็นเลิศในวิชาชีพ มีความรู้และทักษะทางการแพทย์ ในวิชาชีพแพทย์และศาสตร์อื่นๆ และเพื่อเป็นการสนองพระปณิธาน หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต หลักสูตร 7 ปี 2 ปริญญา ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะผลิตบัณฑิตแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถทางวิชาชีพตลอดจนทักษะทางด้านการวิจัย นวัตกรรม ควบกับศาสตร์ด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบวิชาชีพแพทย์ที่สามารถนำไปประยุกต์เพื่อรับใช้และพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้นไป
จึงได้ก่อให้เกิดความร่วมมือจาก 4 สถาบันหลักใน โครงการหลักสูตรแพทยศาสตรบันฑิตควบคู่กับหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา โดยมีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ยินดีให้ความร่วมมือ สนับสนุน และส่งเสริมการนำสาขาวิชาที่เปิดการเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษาของคณะต่างๆ ไปเป็นสาขาวิชาควบให้กับนักศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน โดยระยะแรกจะมีจำนวน 8 สาขาวิชา จากคณะวิทยาศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และวิทยาลัยการจัดการ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา และ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยมหิดล รวมทั้งหลักสูตรนานาชาติ สาขาพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม ของสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ และหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขภาพดิจิทัล ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒ
โดยมีสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ยินดีให้ความร่วมมือสนับสนุนนักวิจัย ห้องปฏิบัติการวิจัย ให้กับการเรียนการสอนหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ทั้งนี้เมื่อนักศึกษาแพทย์สำเร็จการศึกษาจะได้รับปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และปริญญาระดับบัณฑิตศึกษาจากสถาบันตามหลักสูตรที่เลือกเรียนอีก 1 ปริญญา รวมเป็น 2 ปริญญา”
สำหรับวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นโรงเรียนแพทย์ลำดับที่ 23 ของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองตามเกณฑ์มาตรฐานสากลของ World Federation for Medical Education โดยสถาบันรับรองมาตรฐานการศึกษาแพทยศาสตร์และแพทยสภา จัดตั้งขึ้นโดยพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
ด้วยพระวิสัยทัศน์กว้างไกลที่จะยกระดับการศึกษาทางด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพในประเทศไทย ในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและเครือข่ายสถาบันการแพทย์ชั้นนำในการผลิตหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ เพื่อสร้างแพทย์และพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสำคัญและตอบสนองต่อความต้องการของประเทศชาติ
โดยวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดการเรียนการสอนในหลักสูตรที่ทันสมัยทั้งในระดับปริญญาตรี โท และเอก เพื่อมุ่งผลิตบัณฑิตแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นผู้นำด้านสุขภาพและการบริการทางการแพทย์ ที่มีความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งบูรณาการงานบริการวิชาการสู่สังคมตลอดจนปลูกฝังการมีจิตวิญญาณในการอุทิศตนเพื่อสร้างประโยชน์และช่วยเหลือประชาชนด้วยจิตเมตตา ตามพระปณิธาน ผ่านการดำเนิน “โครงการอาสาจุฬาภรณ์” เพื่อส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาพของประชาชนในชุมชนเมืองและชุมชนชนบทเพื่อพัฒนาศักยภาพชุมชนให้เป็นชุมชนต้นแบบด้านสุขภาพสู่ความยั่งยืน นอกจากนี้ นักศึกษาแพทย์ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมปฏิบัติงานในหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เพื่อเสริมสร้างทักษะและประสบการณ์การให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนตามท้องถิ่นห่างไกลเพื่อจะได้ออกไปเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป
นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2567 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้จัดตั้งหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ภายใต้โครงการจัดตั้งคณะวิทยาศาสตร์
โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีรูปแบบการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีกระบวนการคิด วิเคราะห์ และสร้างนวัตกรรม ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงวิชาการหรือต่อยอดในเชิงพาณิชย์-อุตสาหกรรมได้ นอกจากนี้นักศึกษาในชั้นปีที่ 4 ยังได้มีการฝึกปฏิบัติงานวิจัยทั้งภายในและภายนอกสถาบันรวมระยะเวลา 1 ปีเต็ม เพื่อเสริมสร้างทักษะทางด้านการวิจัย นำไปสู่การสร้างนวัตกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม
โดยบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาสามารถทำงานเป็นผู้ช่วยวิจัย นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือนวัตกรด้านการแพทย์ และสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องในระดับที่สูงขึ้นได้
ทั้งนี้หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังมุ่งผลิตบัณฑิตที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีความใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต และมีจิตสาธารณะ เพื่อสนับสนุนและพัฒนาทางการแพทย์ งานวิจัย งานวิชาการ ยกระดับสุขภาวะประชาชนสู่ความเป็นเลิศเพื่อทุกชีวิต