ตร.จับมือมหาดไทย เปิดโครงการ "ขับเคลื่อนการจราจรไทยไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน Traffic Forward" หวังลดอุบัติเหตุทางถนน
18 ธ.ค. 2566, 12:41
วันนี้ (18 ธ.ค.66) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดโครงการขับเคลื่อนจราจรไทยไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน Traffic Forward รวดเร็ว ปลอดภัย เข้าใจ ไปด้วยกัน โดยได้รับเกียรติจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วม พร้อมกับได้รับความร่วมมือจากกรุงเทพมหานคร หน่วยงานในภาคีเครือข่าย มาร่วมพูดคุยถึงการรณรงค์สร้างจิตสำนึกด้านการจราจรให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงโครงการ ขับเคลื่อนจราจรไทยไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ว่า เป็นหนึ่งในนโยบาย ควิกวิน ของทางรัฐบาลและเป็นนโยบายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำกันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญกับการเคารพกฎหมายจราจร คำนึงถึงความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งนอกจากรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ไม่เพียงเฝ้าระวังเฉพาะช่วงเทศกาล 7 วันอันตรายเท่านั้น แต่ประชาชนต้องมีจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนนอยู่ตลอดทำให้เป็นวิถีชีวิตประจำวัน
โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ใน 10 มาตรการเร่งด่วนที่ต้องกวดขันและบังคับใช้กฎหมาย คือ ขับรถย้อนศร ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ไม่สวมหมวกหมวดนิรภัย ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ขับรถบนทางเท้า หยุดรถบนทางม้าลาย แซงในที่คับขัน ไม่พกพาใบขับขี่ ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ และใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ปลอดภัย พร้อมตั้งเป้าจะต้องลดอุบัติเหตุทางถนน ลดการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บให้เห็นผลภายใน 3 เดือน และติดตามผลทุกไตรมาส
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำ การบังคับใช้กฎหมายก็ทำเพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยตำรวจจะนำเทคโนโลยีเข้ามาร่วมในการปฏิบัติด้วย เช่น โดรนบินสำรวจสภาพการจราจร ระบบ AI เข้ามาตรวจจับทะเบียนรถที่ทำผิดกฎหมาย หรือทำผิดซ้ำซาก พร้อมเปิดอบรมประชาชนในโครงการอาสาตาจราจร เพื่อเข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงานของตำรวจ
นอกจากนี้ ยังประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น มาร่วมปฏิบัติ พร้อมยืนยันการบังคับใช้กฎหมาย เปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดกฎจราจร ค่าปรับจะถูกบริหารลงไปสู่ท้องถิ่นเพื่อจัดสรรนำไปปรับปรุงโครงสร้างการจราจร หรือ วิศวกรรมจราจร เช่น ปรับปรุงถนน เส้นทาง ป้ายแจ้งเตือน ซึ่งใช้แนวทางเดียวกันกับในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า การบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด รณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการขับขี่ปลอดภัย สังคมตั้งความหวังไว้ที่ตำรวจแต่ในความเป็นจริงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน และเป็นเรื่องเกี่ยวกับทัศนคติระหว่างประชาชนกับตำรวจ จึงต้องเดินหน้าขับเคลื่อนด้านทัศนคติของตำรวจกับประชาชนด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยปรับแนวคิดของตำรวจให้ เตือนก่อนปรับและปรับเป็นขั้นบันไดผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ชื่อ ขับดี ซึ่งเชื่อว่าการบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนจะช่วยลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนลงได้