ร.ต.อ.สมเจตน์ นุชนารถ พนักงานสอบสวน สภ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงและมีคนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่บริเวณ หน้าบ้านเลขที่ 77/4 หมู่ 1 ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ชัยชาญพัฒน์ ยติรัตนกัญญา ผกก.สภ.หนองหญ้าไซ  ทราบและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.หนองหญ้าไซ ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลังฐาน ภ.จว.สุพรรณบุรี เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วล้อมรอบ ที่ถนนหน้ารั้วบ้าน มีรถยนต์เก๋ง ยี่ฮ้อฮอนด้า ซิตี้ สีน้ำเงิน ทะเบียน 8 กอ 4711 กทม. จอดอยู่ ด้านหน้ารถยนต์พบรถ จยย.สีน้ำเงิน ฮอนด้าแอลเอส ทะเบียน กรก 582 สุพรรณบุรี ล้มอยู่ 

ตรวจในที่เกิดเหตุ  ปลอกกระสุนปืน ขนาด .32 จำนวน 9 ปลอกและหัวกระสุน 2 หัว ที่ประตูรถยนต์ฝั่งคนนั่งมีคราบเลือดติดอยู่ไหลลงมาที่พื้นถนน พบร่างผู้ถูกยิงนอนอยู่ 3 ราย ทราบชื่อ นายเฉลิม ปานสุวรรณ อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 26/3 หมู่ 1 ต.หนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นคนขี่ รถ จยย.มา นอนอยู่ที่หน้ารถเก๋ง ถูกยิงเข้าที่ศีรษะกับท้อง

และในรถยนต์เบาะฝั่งคนนั่ง พบร่างนายชัยวัฒน์ สว่างศรี อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 51/4 หมู่ 1 ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ  นอนอยู่ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ กระโหลกร้าว และ กรามขวาแตก และนายสุรัตน์ งามพักต์ อายุ 27 ปี คนขับรถยนต์มา บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ที่ 1 ต.หนองผักนาก อ.สามชุก นอนอยู่ข้างรถยนต์ฝั่งคนขับบริเวณล้อหลัง ถูกยิงเข้าที่คอ 1 นัด 

ทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งนำผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน ส่ง โรงพยาบาลหนองหญ้าไซ และโรงพยาบาลสามชุก ต่อมาทางนายเฉลิม กับ นายสุรัตน์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนนายชัยวัฒน์ ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.เจ้าพระยายมราชอาการสาหัสยังไม่รู้สึกตัว

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายและผู้บาดเจ็บ ได้ขับรถมาที่บ้านของนายคมเพ็ชร สายสังข์ ผู้ก่อเหตุ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 77 ม.1 ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ และเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันจากนั้น นายคมเพ็ชร ได้ชักปืนออกมายิงใส่กลุ่มคนตาย ไปหลายนัดจนได้รับบาดเจ็บล้มลง จากนั้นได้ขี่รถ จักรยานยนต์ สีขาวทะเบียน 1 กต.8923 เพชรบูรณ์ หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน ล่าสุดทางตำรวจได้รับการติดต่อจากผู้ก่อเหตุเพื่อจะขอเข้ามอบตัวแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ในเบื้องต้นมีผู้ถูกยิงทั้งหมด 3 คน คือนายเฉลิมเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์มา และ นายสุรัตน์กับนายชัยวัฒน์ ขับรถเก๋งมา  และเข้ามาพบกับผู้ก่อเหตุคือนายคมเพ็ชร ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้โดยเบื้องต้นทราบว่าได้มีการเรียกมาคุยกันและเกิดมีปากเสียงกัน และมีการใช้อาวุธกัน คนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด . 32  และหลบหนีไป  

ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนในรายละเอียดที่แน่ชัด ขอเวลาสอบสวนให้ได้ความชัดเจนก่อน ตอนนี้คนร้ายอยู่ระหว่างการหลบหนีทางเราได้วางกำลัง และได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าของทั้งชุดสืบสวนพื้นที่ และของจังหวัด คาดว่าจะได้ตัวคนร้ายเร็วเร็วนี้ครับ 

ด้านนางสาวเอ (นามสมมุติ) ภรรยาคนก่อเหตุ  กล่าวว่า ไม่รู้ว่าเกิดเหตุเกิดจากอะไร ได้ยินคนขับรถเก๋งมาถามหาเพ็ชร ว่าอยู่ไหมก็ตอบไปว่าอยู่แล้วเพชรก็เดินออกมาจากนั้นตนก็เข้าไปในบ้านพาลูกไปเข้าห้องน้ำแล้วก็ได้ยินเสียงเขาทะเลาะกันสักแป๊บก็ได้ยินเสียงปืนปืนก็เลยไม่กล้าวิ่งออกมาข้างหน้าวิ่งออกหลังบ้านไป คนที่มาหารู้จักแค่ว่าชื่อเต้ยเป็นคนขับรถเก๋งมา แฟนไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟังเพราะปกติก็จะไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวกันอยู่แล้ว มีอะไรเค้าก็จะไม่ค่อยเล่าให้ฟัง ส่วนสาเหตุที่แฟนยิงนั้นไม่ทราบว่าเพราะอะไรรู้แค่ว่ามาถึงแล้วเค้าก็โวยวายกันแล้วเกิดเรื่อง 

ยายเพื่อนบ้าน กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุนั่งทำงานอยู่หลังบ้านได้ยินเสียงเอะอะกันแต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ตอนที่มีเสียงปืนได้ยินเหมือนเสียงคนเคาะปี๊บ เพราะปกติแถวนี้เวลาไล่นกเค้าจะเคาะปี๊บไล่ก็เลยไม่ได้คิดอะไร  

ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สืบสวน.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สนิทพงษ์ อินทรกำแหง สว.กก.สส. ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองหญ้าไซ นำกำลังไปควบคุมตัว หลังสืบทราบว่าหนีไปหลบอยู่ที่บ้านญาติให้เขต อ.ดอนเจดีย์ ซึ่งระหว่างตรวจสอบข้อมูลได้มีทางญาติ ของ นายคมเพ็ชร สายสังข์ ผู้ก่อเหตุ ได้ติดต่อมาทางตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัว จึงได้เดินทางไปควบคุมตัว  นายคมเพ็ชร กลับมาสอบสวนที่ สภ.หนองหญ้าไซ  พร้อมของกลางรถจักรยนต์ที่ใช้หลบหนี และปืนของกลางของที่ใช้ก่อเหตุ โดยมี พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ชัยชาญพัฒน์ ยติรัตนกัญญา ผกก.สภ.หนองหญ้าไซ  และฝ่ายปกครองเข้าร่วมสอบสวน  

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ตายมาหาที่บ้านเพื่อมาทวงเงิน ที่ติดค้างจากการเล่นการพนัน ซึ่งทางผู้ก่อเหตุไม่ยอมจ่าย เพราะรู้ว่าที่เสียไปเพราะถูกโกง จึงเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จึงชักปืนออกมายิง จนเป็นเหตุดังกล่าว จากนั้นทางตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาเข้าไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาและจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรีต่อให้วันพรุ่งนี้