ชุมพร กรมชลประทาน ให้บริษัทที่ปรึกษาฯ เดินหน้าแก้ปัญหาอุทกภัยลุ่มน้ำสวี ชุมพร    วันนี้(12 ธ.ค.66) เวลา 9.00 น. ณ ห้องโสตทัศนูปกรณ์ โรงเรียนสวีวิทยา อ.สวี จ.ชุมพร นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอสวี จ.ชุมพร เป็นประธานเปิด โครงการศึกษาแผนหลักและความเหมาะสมการบรรเทาอุทกภัยอำเภอสวี จ.ชุมพร โดยมี นายสุวรรณ สัจจะปิยนิจกุล ที่ปรึกษานายกฯ อบจ.ชุมพร ผู้นำท้องถิ่นและประชาชนพื้นที่ศึกษาโรงการเข้าร่วมรับฟัง พร้อมรับฟังปัญหาพื้นที่ต่างๆเป็นข้อมูลในการศึกษาโครงการ     หลัง กรมชลประทาน ได้มอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท คอลซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด และ บริษัท ชลนวัต จำกัด เดินหน้าศึกษาศึกษาแผนหลักและความเหมาะสมการบรรเทาอุทกภัยอำเภอสวี จังหวัดชุมพร ซึ่งครอบคลุมในพื้นที่ 12 ตำบลประกอบด้วย ต.วิสัยเหนือ ต.วิสัยใต้ ต.ครน ต.สวี ต.ปากแพรก ต.นาโพธิ์ ต.ท่าหิน ต.ด่านสวี ต.ทุ่งระย ต.เขาทะลุ ต.เขาค่าย และ ต.นาสัก โดยทำการศึกษาพื้นที่ 2 แห่ง คือ โรงเรียนสวีวิทยา และพื้นที่ อบต.เขาทะลุ เพื่อแนะนำโครงการและเก็บรวบรวมข้อมูลในพื้นที่ โดยมีการศึกษาทั้งหมด 6 หัวข้อ ประกอบด้วย 1.หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ของโครงการ 2.แผนหลักโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3.ประเภทของโครงการที่สามารถจัดอยู่ในแผนระยะสั้น 1 – 5 ปี 4.การประชาสัมพันธ์มวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน 5.แผนการดำเนินการในขั้นต่อไป และ 6.ประโยชน์ที่ได้จากการศึกษา โดยมี นายอรรพล ชำนาญเวชกิจ ผจก.โครงการฯ.และ นายอาทร สุทธิกาญจ์ ผวค.4 บก. ให้ข้อมูลแก่ประชาชนในพื้นที่ อ.สวี     นายอรรพล ชำนาญเวชกิจ ผจก.โครงการฯ. กล่าวว่า การศึกษารวบรวมข้อมูลต่างๆ จะเป็นการศึกษาเพื่อนำไปเป็นแผนหลักและความเหมาะสมการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ให้ครอบคลุมทั้ง 12 ตำบล ก็จะอยู่ใน 4 ประเด็น ประกอบด้วย 1.การศึกษาแผนหลัก 2.การศึกษาความเหมาะสม 3.การศึกษาด้านเศรษฐกิจ และ 4.การศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ เพื่อนำไปประกอบนการจัดทำแผนให้มีความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่     ทางด้าน นายอาทร สุทธิกาญจ์ ผวค.4 บก. กล่าวเสริมว่า การศึกษาในครั้งนี้ เรามีวัตถุประสงค์หลักก็คือ เพื่อนำไปจัดทำเป็นแผนหลักการบรรเทาอุทกภัยและพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำคลองสวีทั้งสายหลังและสายรองอย่างเป็นระบบ และนำไปจัดทำเป็นรายงานการศึกษาความเหมาะสมของโครงการบรรเทาอุทกภัย อ.สวี จ.ชุมพร เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนคนในพื้นที่ทุกภาคส่วน เพราะแต่ละพื้นที่ก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันออกของ อ.สวี ส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่ราบลุ่มต่ำ ในขณะที่ทางด้านทิศตะวันตกของ อ.สวี เป็นพื้นที่เนินเขาสลับกัน ซึ่งครอบคลุมทั้งหมด 930.76 ตารางกิโลเมตร ดังนั้นการศึกษาเพื่อไปจัดทำแผนในการพัฒนาลุ่มน้ำคลองสวี จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะสั้น (1 – 5 ปี) ระยะปานกลาง (6 – 10 ปี) และระยะยาว(11 – 20 ปี)     สำหรับองค์ประกอบในโครงการก็จะมีการสร้าง อ่างเก็บน้ำ ประตูระบายน้ำ อาคารบังคับน้ำ คลองผันน้ำ/อุโมงค์ผันน้ำ ปรับปรุงขุดลอกคลองและทำแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำเป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดต้องการดำเนินโครงการ ประชาชนในพื้นที่นั้นๆก็สามารถยี่นความจำนงค์ผ่านผู้นำชุมชน นำเสนอมายังหัวหน้าส่วนราชการและผ่านจังหวัดเพื่อขอให้เดินหน้าโครงการได้ เพราะแต่ละพื้นที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต่างกัน และหากจะเดินหน้าโครงการในพื้นที่เมื่อไหร่ ก็จะเอาโครงการที่ผ่านมาจากการศึกษาทั้งระบบ มาเร่งช่วยเดินหน้าโครงการต่อไปได้ โดยไม่เสียเวลาและจะทันกับการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนคนในพื้นที่ได้//ประสิทธิ์ ลีฬหคุณากร/ชุมพร