จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน และจับกุมหนุ่มอายุ 34 ปี ขณะลักลอบตัดและนำไม้พะยูงส่งขายให้ชาวกัมพูชา
4 ธ.ค. 2566, 19:47
เมื่อคืนวันที่ 3 ธันวาคม 2566 เวลา 22.30 น.เจ้าหน้าที่ เขตรักาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการเดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพ Smart Patrol ชุดตที่ 5 (หน่วยพิทักษ์ป่าเขาศาลา),เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจส่วนกลางฯ, เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดด ปทส.กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์, เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ร้อย ตชด.214, และ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนร้อย ตชด.217 ประสานงานปฏิบัติและเดินลาดตระเวน ตามเขตพื้นที่ป่าไม้ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณป่าทิศใต้บ้านบ้านคะนา ตำบลตาตุม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ในขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน ห้วยสำราญ ทับซ้อนเขตป่าไม้ ถาวรป้าที่คณะรัฐมนตรีมีมตีให้เก็บรักษาไว้ให้เป็นสมบัติของชาติ "ป่าห้วยสำราญ"
ขณะทำการเดินลาดตระเวน ได้ยินเสียงการตัดไม้พร้อมทั้งได้เข้าตรวจสอบบริเวณที่มีเสียงเลื่อยยนต์ดังขึ้นพร้อมเข้าตรวจสอบพบผู้ที่ตัดไม้พะยูง คือ นายพิระเดช ทองแย้ม (ระ) อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 149 หมู่ 2 บ้านกะเลงเวก ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและจับกุมตัว นายพิระเดช ทองแย้ม (ระ)พร้อมตรวจยึดไม้พะยูง เป้นไม้หวงห้าม ของกลางและอุปกรณ์การกระทำผิด ไม้พะยูง จำนวน 2 ท่อน ปริมาตรรวม 0.145 ลูกบาศก์เมตร ค่าภาคหลวงรวม 11.60 บาท ค่าความ สียหายของรัฐรวม 36,250 บาท พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ HONDA Wave i สีเทา-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีด 1 เล่ม ราคาประเมิน 20บาทโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง ราคาประเมิน 2,000 บาท ในการจับกุม ผู้จับกุมได้แจ้งให้ผู้ถูกจับกุมทราบถึงสิทธิตามกฎหมาย โดยกล่าวหาว่า ไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้ามตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2562) มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน "ร่วมกันกับพวกหลบหนีทำไม้พะยูง(หวงห้าม) โดยมิได้รับอนุญาต นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรดม ต.ดม อ.สังขะ จ.สุรินทร์
นายพิระเดช ทองแย้ม (ระ) อายุ 34 ปี การเพิ่มว่าพวกตนฯทั้งสามคนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มากันคนละคันเข้าไปในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ ประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 3 ธันวาคม 2566 เพื่อเข้าไปหาตัดไม้พะยูงถ้าตัดได้พวกตนฯจะนำไปขายให้กับคนรับชื้อกัมพูชา ที่รอรับซื้ออยู่ทางฝั่งประเทศกัมพูชาทางด้านหลักเขตแดนที่ 9ซึ่งจะขายได้กิโลกรัมละ 80บาท แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ก่อน ส่วนชายคนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์บรรทุกไม้ทั้งสองคันที่หลบหนีไปได้นั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบชื่อและบ้านพักของทั้ง 3 คน ที่หลบหนีและจะทำการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป