สมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566
26 พ.ย. 2566, 13:47
วันนี้ 25 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่สมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 ตำบลท่าไม้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี นายกำธร กิตติโชติทรัพย์ นายกสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อย เขต 7 พร้อมด้วย นายนราธิป อนันตสุข เลขาธิการสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และเป็นหัวหน้าสำนักงานสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 จาก 4 จังหวัด สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 โดยมี ประธานสาขาและเกษตรกรชาวไร่อ้อย เขต 7 นับหมื่นคนเข้าร่วมประชุม โดยการประชุมใหญ่เพื่อรับทราบความเคลื่อนไหวของราคาอ้อยและน้ำตาล ร่วมถึงข้อเรียกร้องถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ปัจจุบัน แบ่งการบริหารงานออกเป็น 24 สาขา มีสมาชิกชาวไร่อ้อยทั้งสิ้น 113,700 ท่าน , คณะกรรมการบริหาร 85 ท่าน , คณะกรรมการกลาง 719 ท่าน มีพื้นที่ปลูกอ้อยประมาณ 1.4 ล้านไร่ ปริมาณอ้อยต่อปี ประมาณ 12 - 15 ล้านตัน และมีโรงงานตั้งอยู่ในเขตความรับผิดชอบ จำนวน 12 โรงงานน้ำตาล ปัจจุบันได้ดำเนินกิจการมาครบ 59 ปี
การจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกสมาคมฯ ได้รับทราบผลการบริหารงานของสมาคมฯ ในรอบปี และข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย พร้อมทั้ง ได้จัดให้มีกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดแสดงพันธุ์อ้อยจากส่วนราชการ การแสดงเครื่องจักรเกี่ยวกับการประกอบอาชีพการทำไร่อ้อย การออกรางวัล ตลอดจนการออกร้านเพื่อจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับปัจจัยการผลิตอ้อย
ทั้งนี้ในการประชุมใหญ่ สมาคมฯ ได้จัดให้มีการมอบโล่รางวัลเพื่อส่งเสริมให้ชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดสะอาด งดการเผาอ้อย เพื่อสนองนโยบายภาครัฐในการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยสมาคมฯ จะคัดเลือกชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดสะอาด 100% และมีคุณภาพความหวานสูงสุด โรงงานละ 1 ท่าน ผู้ชนะเลิศจะได้โล่ประกาศเกียรติคุณและรางวัลเงินสดรางวัลละ 4,000 บาท จากสมาคมฯ รวม 12 รางวัลอีกด้วย
โดยก่อนการประชุม นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบโล่ให้กับกลุ่มเกษตรกร และตัวแทนโรงงาน จากนั้นได้เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญ โดยมี นายอนุชา หอยสังข์ นายอำเภอท่ามะกา นายปารเมศ โพธารากุล หรือกำนันบอย ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
โอกาสนี้ นายนราธิป อนันต์สุข เลขาธิการสหพันธ์ชาวไร่อ้อย เขต 7 ได้กล่าวว่าในการจัดประชุมใหญ่ก่อนที่ทางโรงงานหับอ้อยจะเปิดฤดูกาลผลิตอ้อย เพื่อแจ้งให้เกษตรกรในกลุ่มของสมาคมฯ ได้รับทราบถึงเรื่องต่างๆ เช่นราคาอ้อยขั้นสุดม้ายในฤดูการผลิตปีที่ผ่านถึงราคาอ้อยขั้นต้น และต้องเรียนว่าตอนนี้รัฐบาลก็ยังไม่ได้เพิ่มราคาอ้อย ราคาอ้อยเราจะกำหนดก็คือในวันที่ 9 ธันวาคม 2566 นี้ จากการประเมินในราคาน้ำตาลในตลาดโลก ราคาต้นทุนเรา เกษตรกรเราก็อยากจะได้ราคาอ้อยที่ตันละ 1 พัน 4 ร้อยบาทต่อตัน ความหวาน 10 ซีซีเอส เรื่องนี้เราก็จะนำปัญหาดังกล่าวกลับไปให้กับผู้เกี่ยวข้องได้ทราบต่อไป
ส่วนเงินเพิ่มที่รัฐบาลเองโดยกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบเงินให้ 2 บาท เราเองก็จะไปขอบคุณเจ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้อง แม้เราเองจะไม่ได้ตามที่ต้องการก็ตาม เราเองต้องการให้ขึ้นราคาน้ำตาลภายในประเทศ จำนวน 4 บาท แต่เมื่อได้แค่ 2 บาท ก็พอใจแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น พอที่จะคุ้มทุนกับพี่น้องชาวไร่อ้อย เงินส่วนนี้ก็จะนำเข้ามาเพิ่มให้กับพี่น้องชาวไร่อ้อยในปีหน้า ซึ่งอยากจะได้ตันละ 1 พัน 4 ร้อยบาท ทำให้พี่น้องชาวไร่อ้อยก็จะได้เพิ่มมาอีกประมาณกว่า 3 พัน 5 ร้อยล้านบาท ชาวไร่อ้อยก็จะได้เพิ่มมาอีกตันละ 40 บาท หากได้ตามนี้เราก็พอใจ
อยากฝากไปถึงเกษตรกรชาวไร่อ้อยว่า ราคาอ้อยสูงต่ำ มันก็ขึ้นอยู่คุณภาพอ้อยของเรา เมื่อโรงงานเปิดการหีบอ้อยเราก็ต้องมาช่วยกันนำอ้อยที่สะอาดมีความหวานส่งเข้ามายังโรงงานน้ำตาล สิ่งเหล่านี้ ทางโรงงานก็จะเอาอ้อยของเราไปสกัดน้ำตาล มาได้เป็นจำนวนมาก เป็นการเพิ่มคุณค่าราคาอ้อยให้เพิ่มมากขึ้นต้องฝากไปถึงเกษตรกรด้วย ขณะนี้โรงงานก็เริ่มเปิดกันบ้างแล้ว
สำหรับอ้อยเกิดไฟไหม้ เรื่องนี้เราได้พูดคุยกับทางรัฐมนตรี กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพาณิชย์ ไปแล้วขอให้ทางรัฐมนตรีก็รับปากว่าจะช่วยหาเม็ดเงินมาช่วยเกษตรกร เรื่องนี้อาจจะช้าหน่อย รวมทั้งประเทศกว่า 8 พันล้านบาท เรื่องนี้เป็นเรื่องของปีเก่า ส่วนฤดูกาลใหม่ เกษตรกรที่ทำอ้อยสดก็จะได้รับเหมือนเดิม คงไม่ใช่ตัวเลขที่ 120 หลักการอาจจะเปลี่ยนไป กำลังอยู่ในขบวนการอยู่ในไตภาคีอ้อยน้ำตาลทราย ขอให้รออีกระยะก่อน เราจะรู้ว่าอ้อยสดในปีหน้าจะได้เท่าใด แต่ก็ยืนยันว่าชาวไร่อ้อยจะได้รับการช่วยเหลือ การทำอ้อยสด การช่วยรณรงค์ช่วยส่วนรวมในการลดค่า PM 2.5 เพื่อสิ่งแวดล้อมในประเทศของเราต่อไป...................นายนราธิป อนันต์สุข เลขาธิการสหพันธ์กลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 กล่าวทิ้งท้าย.............