วันที่ 15 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อวานนี้ (14 ต.ค.) ผู้ใช้เฟสบุ๊ค “ winyu rungsitham ”โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความ “ #หน่วยงานใดรับผิดชอบ!! @#คีรีวง...ก่อนที่..#คีรีวงจะเหลือเพียงตำนานในไม่ช้า...#เทคอนกรีตรุกล้ำลำน้ำต้นน้ำคลองท่าดี...##เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากไปมั๊ย...ช่วยกันหาคำตอบหน่อยครับ...”

หลังโพสต์ดังถูกแชร์ออกอย่างกว้างขวาง และมีชาวเน็ตแสดงความเห็นเยอะมาก ส่วนมากตำนิผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจไม่เหมาะสม ไม่รับผิดชอบ เป็นการทำธุรกิจที่ไม่เคารพธรรมชาติและไม่คำนึงถึงส่วนรวม ความคิดส่วนหนึ่ง ระบุว่า ชุมชนคีรีวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ คีรีวงเป็นสถานที่หนึ่งที่อยู่ในจุดขายของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คีรีวงมีภูมิประเทศที่มีเอกลักษณ์ อากาศดี เป็นชุมชนโบราณอยู่กลางหุบเขา และการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่คีรีวงมีมากกว่าที่เป็นข่าว (ดังภาพ) ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสังคมได้ร่วมกันตรวจสอบ ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ คือการรุกล้ำลำน้ำตลอดสายคลอง ตั้งแต่บนภูเขาลงมาถึงเขตชุมชน, การรุกล้ำที่ดินสาธารณะหลายจุด โดยผู้รุกล้ำส่วนใหญ่เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่, การรุกป่า โค่นไม้ใหญ่ โดยมีข้าราชการบางคนเรียกรับสินบน (ควรตรวจสอบแนวเขตพื้นที่ป่าย้อนหลัง), การขุดลอกคลอง ซึ่งทำให้มีผลกับเรื่องน้ำแล้ง และดินริมตลิ่ง, การใช้สารเคมีในการเกษตรทั่วทั้งภูเขา ทำให้สารพิษแทรกซึมมาในน้ำ และกระจายไปในอากาศ, การให้คนนอกเข้าไปทำโรงแรม โดยไปเบียดเบียนแย่งอาชีพคนใน สร้างความแออัดในพื้นที่ และไม่ทราบว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ (กฎหมายอาคาร, กฎหมายสิ่งแวดล้อม), การปลูกสร้างอาคารระเกะระกะ ไร้การควบคุม, การคอรัปชั่นในโครงการต่าง ๆ ที่ลงไปหลายสิบปี อย่างน้อยตั้งแต่หลังอุทกภัยปี 2531 เป็นต้น # อยากทำคีรีวงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับประเทศต้องจริงใจกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  #ไม่ทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหลับอยู่ตรงไหน

ด้านนายศิริพัฒ พัฒน์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับทราบเรื่อง และเห็นภาพดังกล่าวแล้ว กล่าวว่า ตนเห็นภาพแล้วรู้สึกไม่สบายใจ แต่ติดภารกิจราชการอยู่ที่กรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ทางเจ้าท่านครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบแล้ว หากพบว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายก็ให้รื้อคอนกรีตออกทันที โดยไม่มีการประนีประนอมใด ๆ และให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบการ และผู้ที่กระทำผิดอย่างเฉียบขาดไม่มีการละเว้น พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนายอำเภอลานสกา นายก อบต.กำโลน อ.ลานสกา ให้ตรวจสอบและรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น ว่ามีการปล่อยให้ผู้ประกอบการกระทำการในลักษณะดังกล่าวได้อย่างไร

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (15 ต.ค. 62 ) นายสำคัญ อรทัย นายอำเภอลานสกา พร้อมกำลัง อส.ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่เจ้าท่านครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ป่าไม้นครศรีธรรมราช ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าริมตลิ่งต้นน้ำคลองท่าดีถูกลักลอบเทคอนกรีตจากแนวตลิ่งถึงคลองต้นน้ำประมาณ10 – 20 เมตร และทั้ง 16 ร้าน มีการเทคอนกรีตรุกล้ำรวมระยะทางที่เทคอนกรีตยาวประมาณ 500 เมตร ส่วนเก้าอี้ โต๊ะ และร่ม ที่ปรากฏในโซเชียลถูกนำออกจากบนพื้นคอนกรีตที่เทลุกล้ำแล้ว

นอกจากนี้บริเวณร้านค้า ร้านอาหารริมตลิ่ง ยังพบว่ามีการเทคอนกรีตก่อสร้างสิ่งรุกล้ำ เป็นบันไดทางขึ้น - ลง และมีติดตั้งท่อน้ำประปาโยงข้ามคลองต้นน้ำหลายจุด แต่ไม่พบเจ้าของร้านอาหารแม้แต่รายเดียว พบมีเพียงลูกจ้างของร้านอาหารที่ให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวค่อนข้างมาก

หลังการตรวจสอบพบมีการรุกล้ำพื้นที่จริง ทางนายอำเภอลานสกา จึงสั่งการให้ผู้ประกอบการทั้ง 16 ร้าน รื้อสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่รุกล้ำต้นน้ำคลองท่าดีในวันพรุ่งนี้ ขณะที่เจ้าท่านครศรีธรรมราช ได้ถ่ายภาพพื้นที่ที่ถูกรุกล้ำทั้งหมด และจะดำเนินการแจ้งความกับผู้ประกอบการทั้ง 16 ราย ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้ทางป่าไม้จังหวัดนครศรีธรรมราช และเจ้าท่านครศรีธรรมราช จะใช้แผนที่แนวเขตอุทยาน เพื่อรังวัดพื้นที่ พร้อมกำหนดแนวเส้นให้ชัดเจน เพื่อจัดระเบียบพื้นที่ใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องห้ามมิให้มีการก่อสร้างสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำ รวมทั้งเรื่องความสะอาด  

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับชุมชนคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ซึ่งมีจุดเด่นด้านลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ มีชุมชนโบราณอยู่กลางหุบเขา รวมทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่ที่อากาศดีที่สุดในประเทศ เป็นสถานที่หนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วประเทศที่เดินทางมาเยี่ยมชม สัมผัสความเป็นธรรมชาติตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าร้าน โดยแต่ละปีชุมชนคีรีวงสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่และจังหวัดนครศรีธรรมราชนับพันล้านบาท