นายกฯ เพิ่งรู้นักลงทุนรายย่อยจ่อหยุดเทรด ชี้! 2 หุ้น ส่งผลต่อความไว้วางใจในตลาดฯ มีน้อย
16 พ.ย. 2566, 11:53
วันนี้ ( 15 พ.ย. 2566) เวลา 16.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนคร ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีปัญหาในตลาดหุ้น หลังจากมีกระแสข่าวว่านักลงทุนรายย่อยนัดหยุดเทรดในวันที่ 20 พ.ย.นี้ จากวิกฤติความเชื่อมั่น ว่า ตนเองยังไม่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องนี้จนมีปัญหาหยุดเทรด ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องมีการสอบถาม ทั้งนี้ ในระยะยาวรัฐบาลไม่ได้ออกมาตรการที่เป็นลบต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่พยายามทำหลายๆ อย่างให้ดีขึ้น แต่จะดีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความรู้สึกของนักลงทุน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันจันทร์ที่ผ่านมา (13พ.ย.) ได้ให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ให้ออกนโยบายออกมา จึงไม่ทราบว่าอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้หรือไม่
ส่วนกรณีการขายชอร์ต (Short Selling) ที่เชื่อว่าจะมีการเมืองมาแทรกแซงในตลาดหุ้นนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก.ล.ต.ตรวจสอบแล้วไม่มี และตนเองอยากถามกลับว่าเขาจะให้ทำอะไร คุยกับใคร ซึ่งการที่ให้นายกิตติรัตน์ไปหารือกับก.ล.ต.มีแต่สถานการณ์ดีขึ้น แต่ดีมากหรือดีน้อย ตนไม่ทราบ อยากจะให้ตนทำอะไรขอให้บอก ไม่ใช่ตนเองไม่อยากทำ เพราะการพูดคุยกับนักลงทุนรายย่อยซึ่งมีเป็นแสนคนจะให้ตนเองไปคุยกับใคร ภาษีจากธุรกรรมการขายก็ไม่ได้เก็บ ภาษีจากกำไรการขายหุ้นก็ไม่ได้เก็บ นโยบายการลงทุนกองทุนเอทีเอฟก็ออกมาให้ตามที่ต้องการ หากจะต้องการอะไรบอกมา ตนเองไม่ได้ประชด หรือว่าอารมณ์เสีย แต่อยากรู้ว่าต้องการอะไรหรือไม่ จะได้จัดให้ และมีอะไรใหม่ที่อยากได้
“ผมไม่ได้อะไรเลยเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ ผมไม่ได้ยุ่งอะไรเลย ไม่ได้รบกวน ไม่ได้ไปทำให้ใครมีปัญหา ซึ่งวันนั้นผมก็อารมณ์เสียใส่ดีเอสไอไปเรื่องหุ้นมอร์ และหุ้นสตาร์ค ซี่งเป็นเรื่องสำคัญที่ความไว้วางใจในตลาดมีน้อย เรื่องเกิดมานานเท่าไหร่ ยังไม่จบเสียที ติดอยู่ที่ดีเอสไอ ไม่ใช่เรื่องหมูอย่างเดียว” นายกรัฐมนนตรี กล่าว