วันนี้ ( 15 พ.ย.66 ) เวลา 11.45 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้เป็นการประชุมของอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 สำหรับคณะอนุกรรมการในกรุงเทพมหานคร และกลุ่มวิชาชีพต่าง ๆ เสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังเหลืออีกส่วนหนึ่ง โดยในวันที่ 20 พฤศจิกายน จะเป็นการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มเกษตรกรในภาคอีสาน วันที่ 23 พฤศจิกายนจะมีการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก วันที่ 28 พฤศจิกายน จะเป็นการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่จังหวัดเชียงใหม่ และวันที่ 7 ธันวาคม จะเป็นการรับฟังความเห็นของกลุ่มมุสลิมที่จังหวัดสงขลา ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 7 ธันวาคม สำหรับกลุ่มรับฟังความคิดเห็น โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะสอบถามความเห็นของประชาชนจากทุกกลุ่มอาชีพเท่าที่เป็นไปได้ ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันมีความแน่วแน่ที่จะแก้รัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายในสี่ปี และสามารถที่จะเลือกตั้งได้หลังจากครบวาระภายใต้กติการัฐธรรมนูญใหม่และกฎหมายเลือกตั้งใหม่ นอกจากนั้นรัฐบาลยืนยันว่าจะรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มที่หลากหลายให้มากที่สุด 

นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า ที่ประชุมวันนี้ก็ยังมีความเห็นที่แตกต่าง แต่ว่าการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็เป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งคณะกรรมการก็เปิดรับฟังความเห็นอย่างเต็มที่ โดยความเห็นหลัก ๆ นั้นจะเป็นการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ไม่ต้องมีข้อจำกัดในหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ คิดว่าเป็นโอกาสดีในการทำความเข้าใจในเรื่องถูกนำเอาไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่อีกส่วนหนึ่งคิดว่ายังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ หากนำประเด็นนี้เข้ามาเสนออาจทำให้เกิดความขัดแย้งที่ไม่จบสิ้น และอาจทำให้การแก้ปัญหารัฐธรรมนูญเกิดขึ้นได้ยาก ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นปัญหา เป็นอุปสรรคในการทำงานในการแก้ไขปัญหาและในการรักษาสิทธิ์ และกระบวนการต่าง ๆ ของประชาชน โดยจะต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจ หาทางออกร่วมกันในประเด็นที่เห็นต่างกัน แต่รัฐบาลพร้อมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างความขัดแย้งใหม่ขึ้นมา

นายภูมิธรรมกล่าวว่า อำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของประชาชน เพราะฉะนั้นต้องมีกระบวนการที่จะให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นในการร่างรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน รัฐบาลพร้อมให้ประชาชนเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ โดยภาพรวมแล้วทุกคนเห็นตรงกันว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นอุปสรรค มีข้อจำกัด เป็นปัญหาต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นปัญหาเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน ฉะนั้น รัฐบาลจึงต้องการที่จะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีความเป็นประชาธิปไตยให้มากที่สุด 

นายภูมิธรรมยังย้ำว่า ทุกอย่างมีความคืบหน้าเป็นอย่างดี คาดว่าภายในเดือนธันวาคม กระบวนการในการรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะในการศึกษาต่าง ๆ น่าจะมีข้อยุติ เพราะฉะนั้นในต้นเดือนมกราคมหรือไตรมาสแรกของปีหน้า จะพยายามดำเนินการให้จบภายในเดือนมกราคม หากมีข้อสรุปที่ชัดเจนก็จะนำเรื่องนี้เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา และหลังจากคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วให้ทำการลงประชามติ ถ้ามีข้อยุติแล้วก็จะดำเนินไปตามกระบวนการต่อไป