รมว.ทรัพยากรฯ สั่งอธิบดีอุทยานฯ กวาดล้างขบวนการค้าไม้เถื่อนข้ามชาติให้ได้ หลังเตรียมส่งออกนอก
6 พ.ย. 2566, 07:40
จากสถานการณ์การลักลอบตัดไม้มีค่าในหลายพื้นที่ยังคงมีกลุ่มนายทุนจากต่างชาติเข้ามาสนับสนุนเงินทุนในการลักลอบตัดไม้และค้าไม้ข้ามชาติที่ผิดกฎหมาย นั้น
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้สั่งการในการประชุมขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 มอบหมายให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้มีค่าและการค้าไม้ข้ามชาติที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนให้ปรับปรุงคำสั่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า (คปป.) เพื่อกำกับนโยบายและขับเคลื่อนการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ให้ประสานขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมสนับสนุนการป้องกันและปราบปราม
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 หน่วยพญาเสือ นำโดยนายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือ สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นโกดังในท้องที่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ตามหมายค้นศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ตรวจยึดไม้ประดู่และไม้ชิงชันที่ถูกลักลอบตัดในเขตอุทยานแห่งชาติและไม่ทราบที่มา รวม 203 ท่อน/แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร รวม 45.0641 ลบ.ม. มูลค่าความเสียหายของไม้ทั้งหมด รวม 4,962,155 บาท และมีมูลค่าราคาตามท้องตลาดกว่า 33 ล้านบาท จากการสืบทราบเบื้องต้นพบว่าผู้กระทำผิดเป็นขบวนการนายทุนจากต่างประเทศ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ปัจจุบันจากการลาดตระเวนอย่างเข้มข้นและเฝ้าระวังการลักลอบตัดไม้มีค่าในหลายพื้นที่ พบว่ายังมีการลักลอบตัดไม้มีค่าในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยหลายจังหวัด เช่นเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำปาง อุตรดิตถ์ เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการกำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มข้นต่อไป
นอกจากนี้แล้ว รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังได้อาศัยกลไกของ Thailand WEN ในการขับเคลื่อนการทำงาน ร่วมกับหน่วยงานอื่น ซึ่งนอกเหนือจากการป้องกันปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าแล้ว ยังเป็นการป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าแห่งประเทศไทย (Thailand Wildlife Enforcement Network: Thailand-WEN) จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยให้การดำเนินงานของเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าในประเทศไทย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้อง และเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าแห่งประเทศไทยขึ้น โดยให้มีกรอบหน้าที่เพื่อให้การสนับสนุน คำปรึกษา อำนวยการ และกำหนดแนวทาง เพื่อให้เกิดการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และองค์กรเอกชนในประเทศไทย ภายใต้ข้อกำหนดการดำเนินการของเครือข่าย ASEAN-WEN รวมทั้งพิจารณากำหนดแผนงานและกิจกรรมเฉพาะในส่วนของประเทศไทยภายใต้เครือข่าย ASEAN-WEN นอกจากนี้ยังทำหน้าที่กำหนดประเด็น ท่าทีความร่วมมือ และการจัดทำข้อตกลงระหว่างประเทศ ตลอดจนการติดตามผลการดำเนินงานการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าของประเทศไทย ภายใต้เครือข่าย ASEAN-WEN รวมทั้งการแต่งตั้งอนุกรรมการ คณะทำงานและที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
หากสามารถใช้กลไกและเครื่องมือที่มีอยู่ ผ่านกระบวนการที่ได้รับความร่วมมือในการทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว การแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าตลอดจนการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ก็จะเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสมสามารถรักษาทรัพยากรของชาติไว้ได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต