รวบ 2 ผัวเมียเปิดคาราโอเกะบังหน้า ค้ากามสาวชาวลาว
19 ต.ค. 2566, 15:30
วันที่ 19 ต.ค.2566 พ.ต.ต.ณัฐพล พลอยท้วม สว.กก.3 บก.ปคม., ร.ต.อ.ไชยา สีถินวัน, ร.ต.อ.ปุริมพัฒน์ เมธีธนะศิลป์ รอง สว.กก.3 บก.ปคม., ร.ต.ต.ฉัตรพิศุทธิ์ วงศ์มณี, ร.ต.ต.ภาวัฒพรสวัสดิ์ รัตนชัย รอง สว.(ป) กก.3 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม.ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหา คือ นายประญัติฯ อายุ 47 ปี และ นางเก่ง หรือเข็ม (สัญชาติลาว) อายุ 41 ปี
ในความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ, ร่วมกันเป็นเจ้าของกิจการการค้าประเวณี ผู้ดูแล หรือผู้จัดการกิจการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี, ร่วมกันช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น, รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณี, จัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ”
สถานที่จับกุม ร้านคาราโอเกะ บริเวณ หมู่ 6 ต.หนองผือ อ.ท่าลี่ จ.เลย
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่าในพื้นที่ จ.เลย มีร้านคาราโอเกะลักลอบเปิดให้บริการทางเพศเด็ก โดยนำหญิงสาวสัญชาติลาว อายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายบริการทางเพศ โดยมีการเปิดให้บริการแบบครบวงจรภายในร้านเดียว มีทั้งการให้พนักงานมานั่งดูแล และให้เลือกเด็กที่ต้องการไปใช้บริการทางเพศที่บิรเวณห้องพักที่จัดไว้ด้านหลัง ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบชื่อร้านดังกล่าว โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นร้านอาหารที่มีการให้บริการร้องเพลง มีพนักงานเสิร์ฟเป็นหญิงสาวชาวลาวกว่า 10 คน โดยบางรายไม่มีหนังสือเดินทาง และไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งจากการสืบสวนยังทราบข้อมูลอีกว่า ทางร้านจะคิดค่าบริการทางเพศครั้งละ 1,500 – 2,000 บาท โดยเจ้าของร้านจะได้ส่วนแบ่งจากการที่เด็กขายบริการทางเพศครั้งละ 500 บาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผนเข้าจับกุม โดยสามารถจับกุม นายประญัติฯ และนางเก่งฯ (หญิงสาวชาวลาว) เจ้าของร้านคาราโอเกะดังกล่าวได้ พร้อมทั้งตรวจยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาวชาวลาวที่ขายบริการทางเพศภายในร้านดังกล่าวอีกจำนวน 3 ราย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือเด็กหญิงทั้ง 3 ราย เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เปิดร้านคารโอเกะ และลักลอบขายบริการทางเพศจริง โดยเมื่อเด็กสาวชาวลาวขายบริการกับลูกค้าแล้ว ร้านคาราโอเกะจะได้เงินส่วนแบ่งจากเด็กครั้งละ 500 บาท ต่อการขายบริการ 1 ครั้ง โดยมีการจัดห้องพักไว้สำหรับเเขกที่บริเวณด้านหลังร้านคาราโอเกะ
ทั้งนี้ ทางตำรวจสอบสวกลาง (CIB) จะได้ทำการกวดขันจับกุมการลักลอบนำคนต่างชาติมาค้าประเวณี และผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเข้มงวดต่อไป